คุณรู้หรือไม่? ว่าปัจจุบันนี้"หูฟังbone conduction aftershokz"นั้นโดยมีทั้ง หูฟังbone conduction aftershokz แล้วแบบนี้คุณจะทราบได้อย่างไรว่าในแต่ละรุ่นหรือประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? หรือหูฟังbone conduction aftershokz ยี่ห้อไหนดี? ราคาแพงไหม? ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาหูฟังbone conduction aftershokzดีๆสักรุ่น วันนี้เราได้จัดอันดับ แนะนำ หูฟังbone conduction aftershokzคุณภาพดีมาให้คุณได้เลือกกันแล้วดังนี้
2. Shokz OpenComm2 Black หูฟังไร้สาย ระบบ Bone Conduction
[รับประกันศูนย์ไทย 2 ปี] การันตีสินค้าแท้ทุกรายการ พร้อมส่งตรงถึงมือคุณ ทางเรามีทีมงานจัดส่งสินค้า ภายใน 1-2 วันหลังจากได้รับออเดอร์ หากต้องการสอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อแอดมินได้ตลอดเวลาทําการค่ะ เวลาทําการ 8.30 -17.30น. [นอกเวลาทําการแอดมินจะทยอยตอบ หรือตอบภายในวันถัดไปจ้า] สามารถออกใบกํากับภาษีได้ ---> กรอกข้อมูลในหน้าทําการสั่งซื้อเพื่อกดขอใบกํากับภาษี** เมื่อสินค้าถูกส่งออกไปแล้วจะไม่สามารถขอเปลี่ยนหรือแก้ไขข้อมูลได้ ************************************************************************************************************** คุณภาพเสียงที่โดดเด่น ไม่พลาดคําพูดระหว่างการโทรครั้งสําคัญด้วยเทคโนโลยีการส่งแรงสั่นสะเทือนผ่านกระดูกตรงโหนกแก้มรุ่นที่ 7 และ OpenComm2 ทําให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้ยินทุกคําอย่างชัดเจนและไม่ผิดเพี้ยน ไมโครโฟนบูมตัดเสียงรบกวน ไมโครโฟนบูมตัดเสียงรบกวน DSP จะช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างออกไปทําให้คุณได้รับการสื่อสารที่ชัดเจน แม้ว่าคุณจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังมากก็ตาม มอบเวลาในการสนทนาที่ 16 ชั่วโมง ตัวแบตเตอรี่จะช่วยให้คุณสนทนาได้ยาวนานสูงสุดถึง 16 ชั่วโมง หรือจะช่วยให้คุณฟังเพลงได้ 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง ซึ่งมันจะทําให้คุณสามารถสื่อสาร สนทนา หรือ ฟังเพลงได้ยาวนานตลอดทั้งวัน มีปุ่ม Multifunction สําหรับการควบคุมที่ง่ายมากขึ้น เข้าถึงการควบคุมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ช่วยให้คุณเล่นเพลง หยุดเล่นเพลงชั่วคราว ข้ามเพลง เปิดการใช้งาน Vioce Assistant และรับสายได้อย่างง่าย Features - มีปุ่ม Multifunction สําหรับการควบคุม - อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 16 ชั่วโมง - ไมโครโฟนบูมตัดเสียงรบกวน DSP - การเชื่อมต่อบลูทูธ 5.0 - กันน้ําตามมาตรฐาน IP55 - ใส่สบายตลอดทั้งวัน รายละเอียดสินค้า Back-a-track : ใช้งานได้ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ : มอบเวลาสนทนา 16 ชั่วโมง ประเภทแบตเตอรี่ : แบตเตอรี่ลิเธียม ระยะเวลาในการชาร์จ : 1 ชั่วโมง เครื่องชาร์จ : ใช้สาย Magnetic Induction การควบคุมคําสั่ง : รองรับ ตัวแปลงสัญญาณที่เข้ากันได้ : SBC โปรไฟล์ที่เข้ากันได้ : A2DP, AVRCP, HSP, HFP การตอบสนองความถี่ : 20Hz~20KHz ความไวของไมค์ : -38dB±3dB ไมโครโฟน : ไมค์ Boom ตัดเสียงรบกวน DSP ความไวของไมโครโฟน : -38dB ± 3dB การตรวจจับความชื้น : ใช้งานได้ การจับคู่แบบหลายจุด : ใช้งานได้ ความไว : 96 ± 3dB เวลาในการแสตนด์บาย : สูงสุด 14 วัน สายไทเทเนียม : Full-Wraparound กรอบไทเทเนียม : Full-Wraparound ประเภท : Bluetooth 5.0 การกันน้ํา : กันน้ําตามมาตรฐาน IP55 น้ําหนัก : 33 กรัม ระยะในการเชื่อมต่อแบบไร้สาย : 33 ฟุต ความเข้ากันได้ : มือถือ คอมพิวเตอร์ * ไม่ใช่ตัว OpenComm2 UC อุปกรณ์ภายในกล่อง • 1 x Shokz OpenComm2 • 1 x เครื่องชาร์จแบบเหนี่ยวนําแม่เหล็ก • 1 x กระเป๋าใส่ฮาร์ดเชลล์ Shokz
3. ร้านค้าแนะนํา Shokz OpenRun Pro Sport Headphone หูฟังไร้สาย ระบบ Bone Conduction
4. Shokz OpenRun หูฟังไร้สาย ระบบ Bone Conduction
หูฟังจากทาง Shokz ในรุ่น OpenRun เป็นหูฟังที่ใช้ไดร์เวอร์แบบพิเศษ Bone conduction ครับ โดยในรุ่นนี้นั้นจะใช้ไดร์เวอร์รุ่นใหม่ รวมไปถึงการออกแบบใหม่อีกด้วยครับ การออกแบบและบรรจุภัณฑ์ สําหรับหูฟัง Shokz OpenRun นั้นจะเป็นหูฟังไร้สายชนิด Bone conduction ที่เป็นไดร์เวอร์ชนิดพิเศษ ใช้การส่งแรงสั่นสะเทือนผ่านกระดูกแก้มเพื่อให้เราได้ยินเสียงโดยที่ไม่ผ่านแก้วหูครับ โดยจะสวมใส่แบบแปะไว้ที่ด้านหน้าช่องหู ทําให้เราได้ยินเสียงรอบๆตัวอีกด้วยครับ ออกแบบมาให้สวมใส่ได้อย่างกระชับ ไม่หลุดร่วงระหว่างการออกกําลังกายแน่นอน และในรุ่นนี้นั้นจะมีน้ําหนักที่เบา โดยจะอยู่ที่ 26 กรัม โดยภายในกล่องนั้นจะมาพร้อมกับซองใส่ และสายชาร์จ อุปกรณ์ในกล่อง • 1 x Shokz OpenRun • 1 x สาย USB • 1 x ซองผ้าสําหรับพกพา • 1 x คู่มือการใช้งานเบื้องต้น การใช้งาน ในส่วนของการใช้งานนั้น Shokz OpenRun จะใช้การเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.1 โดยสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมง สําหรับการชาร์จแบตเตอรี่นั้น Shokz Openrun จะใช้ช่องชาร์จแบบพิเศษครับ โดยจะต้องใช้สายที่แถมมาให้ในกล่องเท่านั้น ภายในของ OpenRun นั้นจะใช้ชุดไดร์เวอร์ Premiumpitch 2.0+ ซึ่งเป็นไดร์เวอร์รุ่นล่าสุดที่ออกแบบให้เสียงที่ส่งออกมานั้นมีรายละเอียดที่ดีขึ้น เบสลงได้หนักขึ้นครับ นอกจากนี้ในส่วนของบริเวณที่สวมใส่นั้น ทางแบรนด์ก็ได้ออกแบบใหม่ให้ทํามุมได้ดีกว่าเดิม ช่วยให้ได้ระดับเสียงที่ดีขึ้น รายละเอียดต่างๆฟังได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงลดแรงสั่นสะเทือนที่ทําให้บางคนรู้สึกไม่สบายเวลาสวมใส่ด้วยครับ คุณภาพเสียง เสียงเบส - เบสของ OpenRun นั้นจะมากกว่ารุ่นก่อนหน้าครับ สามารถสัมผัสได้ถึง deep bass ได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ฟังได้อย่างเต็มอารมณ์มากขึ้น เสียงร้อง - เสียงร้องมีความชัดเจน ฟังง่าย แต่รายละเอียดอาจจะไม่เยอะมากเท่ากับหูฟังทั่วๆไปครับ แต่ก็ฟังได้อย่างไม่ขัดเขิน ตําแหน่งนักร้องจะอยู่ใกล้ตัว เสียงแหลม - ย่านเสียงแหลมไม่จัดมากนัก รายละเอียดเล็กๆน้อยๆฟังได้ง่ายขึ้น อย่างเช่นเสียงกรุ๊งกริ๊งต่างๆนั้นชัดขึ้นมาจากรุ่นก่อนเลยครับ เวทีเสียง - เวทีเสียงไม่กว้างมากนัก รายละเอียดต่างๆจะอยู่ใกล้ๆกัน โดยทั้งเครื่องดนตรีและนักร้องจะอยู่ใกล้ๆตัวผู้ฟังเลยครับ สรุปเกี่ยวกับหูฟังไร้สาย Shokz OpenRun สําหรับหูฟัง Shokz OpenRun นั้นเรียกได้ว่าปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้านี้อย่างชัดเจนลยครับ ทั้งน้ําหนักที่เบาขึ้น แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่าเดิม การสวมใส่ที่พอดีขึ้น และรายละเอียดเสียงที่ครบถ้วนขึ้นกว่าเดิม ถึงแม่จะไม่เยอะเท่าหูฟังแบบปกติ แต่ก็ช่วยให้ออกกําลังกายได้อย่างเต็มที่เลยล่ะครับ Shokz
5. Shokz Openmove หูฟังไร้สาย ระบบ bone conduction
หูฟังไร้สายจากทาง shokz ในรุ่น Openmove นั้นเป็นหูฟังไร้สายสําหรับออกกําลังกาย ที่ใช้ไดร์เวอร์แบบ bone conduction ที่ทาง shokz เชี่ยวชาญครับ โดยในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่น่าสนใจอย่างการปรับแต่ง EQ ได้ถึง 3 รูปแบบด้วยกัน การออกแบบ ในส่วนของการออกแบบนั้น หูฟังไร้สาย shokz Openmove นั้นจะเป็นหูฟังไร้สายชนิด Bone conduction ที่เป็นไดร์เวอร์ชนิดพิเศษ ใช้การส่งแรงสั่นสะเทือนผ่านกระดูกแก้มเพื่อให้เราได้ยินเสียงโดยที่ไม่ผ่านแก้วหูครับ โดยจะสวมใส่แบบแปะไว้ที่ด้านหน้าช่องหู ทําให้เราได้ยินเสียงรอบๆตัวอีกด้วยครับ ออกแบบมาให้สวมใส่ได้อย่างกระชับ ไม่หลุดร่วงระหว่างการออกกําลังกายแน่นอน มีน้ําหนักเพียง 29 กรัมเท่านั้น ซึ่งจัดว่าเบามากๆครับ อุปกรณ์ภายในกล่อง - shokz Openmove - สาย USB-C - ถุงผ้าสําหรับพกพา การใช้งาน ในส่วนของการใช้งานนั้น shokz Openmove จะใช้การเชื่อมต่อไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.0 ที่สามารถเชื่อมต่อได้ไกล และประหยัดแยตเตอรี่ครับ โดยสามารถใช้งานได้สูงสุด 6 ชั่วโมง หรือเปิด standby ได้นานสูงสุด 10 วันเลยทีเดียว ตัวหูฟังใช้การชาร์จแบตเตอรี่ผ่านทางช่อง USB-C โดยจะใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 2 ชั่วโมงครับ ตัวหูฟังรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 เครื่อง ทําให้เมื่อเราต้องการสลับการใช้งานไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ก็สามารถทําได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องทําการจับคู่ใหม่ทุกครั้งครับ สําหรับไดร์เวอร์ของ Openmove นั้นจะใช้ไดร์เวอร์ PremiumPitch 2.0 ซึ่งเป็นรุ่นที่อัปเกรดจากรุ่นแรก ให้รายละเอียดที่สูงขึ้น เบสลงได้ลึกกว่าเดิม และมีการสั่นสะเทือนที่น้อยลงครับ shokz Openmove นั้นจะมาพร้อมกับ EQ ถึง 3 แบบให้เลือกใช้ครับ ได้แก่ Standard mode สําหรับการใช้งานนอกสถานที่, Human Voice mode ที่เหมาะสําหรับการใช้ฟัง audiobook หรือ podcast, และ Earplug mode สําหรับการใช้งานขณะที่ใช้จุกอุดหูร่วมด้วยครับ สําหรับการใช้ออกกําลังกายนั้น shokz Openmove ออกแบบมาให้กันน้ําในระดับ IP55 ที่สามารถโดนเหงื่อหรือน้ํากระเด็นใส่ได้สบายครับ แต่ตัวหูฟังจะไม่สามารถใส่อาบน้ําหรือว่ายน้ําได้ครับ คุณภาพเสียง ในส่วนของเสียงนั้น shokz Openmove จะให้เสียงเบสที่ชัด ลงได้ลึกปานกลาง โดยรายละเอียดต่างๆยังคงมีอยู่ไม่ได้หายไปไหนครับ เสียงกลางชัดเจน โดยจะโดดเด่นกว่าย่านอื่นๆ เสียงนักร้องชัดเจน แต่รายละเอียดอาจจะไม่เยอะมากเท่ากับหูฟังทั่วๆไปครับ ในส่วนของเสียงแหลมนั้นจะไม่จัดจ้านครับ ให้รายละเอียดในระดับปานกลาง ส่วนเวทีเสียงนั้นมีขนาดไม่กว้างนัก แต่ยังคงแยกตําแหน่งชิ้นดนตรีได้ดีครับ โดยเสียงนักร้องและเครื่องดนตรีจะอยู่ใกล้ตัวผู้ฟัง สรุปเกี่ยวกับหูฟังไร้สาย shokz Openmove โดยรวมแล้วหูฟัง shokz Openmove นั้นจะเป็นหูฟังของทางแบรนด์ที่เป็นรุ่นรองลงมาจาก Aeropex โดยมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยครับ ทั้งในส่วนของการสวมใส่ที่กระชับมากๆ ไม่หลุดระหว่างใช้งานแน่นอน น้ําหนักเบา ใส่ได้นานทั้งวันโดยที่ไม่รู้สึกเจ็บหู แถมแบตเตอรี่ยังใช้งานได้อย่างยาวนานอีกด้วยครับ Shokz